การขายภาพดิจิทัลผ่าน Shutterstock ยังคงดีอยู่หรือไม่ และ AI มีผลกระทบอย่างไร

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ตลาดภาพถ่ายสต็อก (stock photography) โดยเฉพาะแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง Shutterstock ได้กลายเป็นช่องทางสร้างรายได้ยอดนิยมสำหรับช่างภาพทั่วโลก แต่เมื่อเทคโนโลยี AI พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด คำถามที่ตามมาคือ ตลาดนี้ยังคงน่าสนใจอยู่หรือไม่ และ AI เข้ามามีบทบาทอย่างไรในอุตสาหกรรมนี้  

1. สถานการณ์ปัจจุบันของ Shutterstock และตลาดภาพสต็อก
      ในยุคดิจิทัลที่เนื้อหาภาพเป็นสิ่งสำคัญในทุกแพลตฟอร์ม ตั้งแต่โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ ไปจนถึงการตลาด ทำให้ความต้องการภาพสต็อกยังคงมีอยู่สูง Shutterstock ยังคงเป็นผู้นำตลาดที่มั่นคงและมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม การแข่งขันก็ดุเดือดขึ้นเช่นกัน มีแพลตฟอร์มใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย รวมถึงการที่หลายคนสามารถเข้าถึงกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพคุณภาพสูงได้ง่ายขึ้น ทำให้จำนวนผู้สร้างสรรค์ภาพเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
 
      การแข่งขันนี้ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อภาพของผู้ขาย (contributor) อาจลดลงบ้างในบางกรณี และเพื่อให้คงความสามารถในการแข่งขัน ผู้ขายจึงต้องผลิตผลงานที่มีคุณภาพสูง มีเอกลักษณ์ และตอบโจทย์ความต้องการของตลาดอยู่เสมอ
 
2. AI และผลกระทบต่อธุรกิจ Shutterstock
      การมาถึงของ Generative AI หรือ AI ที่สามารถสร้างภาพได้เองจากข้อความ (text-to-image) ได้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ให้กับอุตสาหกรรมนี้ ผลกระทบหลัก ๆ สามารถแบ่งได้ดังนี้:
 
      AI มาแทนที่ (Disruptive Force): AI สามารถสร้างภาพได้หลากหลายสไตล์ในเวลาอันรวดเร็วและต้นทุนต่ำมาก ทำให้ภาพง่าย ๆ ทั่วไป (เช่น ภาพพื้นหลัง, ภาพไอคอน, ภาพคอนเซ็ปต์ง่าย ๆ) อาจถูกสร้างโดย AI มากขึ้น ทำให้ความต้องการภาพถ่ายจากช่างภาพลดลงในบางหมวดหมู่ ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือช่างภาพที่ผลิตผลงานทั่วไปและขาดเอกลักษณ์เฉพาะตัว
 
      AI เป็นเครื่องมือส่งเสริม (Enhancing Tool): Shutterstock ไม่ได้มองว่า AI เป็นเพียงภัยคุกคาม แต่ยังมองว่าเป็นโอกาสด้วย แพลตฟอร์มได้ร่วมมือกับบริษัท AI อย่าง OpenAI และได้เปิดตัว Shutterstock.AI ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างภาพจาก AI ได้โดยตรง และยังเปิดรับผลงานภาพที่สร้างจาก AI สำหรับขายในแพลตฟอร์มด้วย นั่นหมายความว่า AI ได้กลายเป็นอีกหนึ่ง "ประเภทเนื้อหา" ที่ขายได้บนแพลตฟอร์ม
 
3. Shutterstock ในยุค AI: โอกาสและความท้าทาย
      AI ไม่ได้เข้ามาแทนที่ทั้งหมด แต่เข้ามาเติมเต็มและเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของตลาด แม้ AI จะสร้างภาพได้ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่มาก เช่น การสร้างภาพที่ซับซ้อน อารมณ์ที่ลึกซึ้ง การถ่ายภาพบุคคลจริงที่ต้องการใบอนุญาต (model release) หรือภาพเหตุการณ์สำคัญ (editorial photos) ที่ต้องการความสมจริงและเฉพาะเจาะจง

 
ดังนั้น สำหรับผู้ขายใน Shutterstock การปรับตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญ
 
    ภาพถ่ายที่ยังมีคุณค่าสูง: ภาพถ่ายที่มีคุณค่าสูงยังคงเป็นที่ต้องการของตลาด เช่น ภาพที่ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกอย่างลึกซึ้ง, ภาพบุคคลที่มีความหลากหลาย, ภาพสถานที่ที่ไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ด้วย AI, ภาพเหตุการณ์ปัจจุบัน หรือภาพเชิงพาณิชย์ที่มีการจัดองค์ประกอบและแสงอย่างประณีต
 
     การใช้ AI เป็นเครื่องมือ: ผู้สร้างสรรค์สามารถใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วยในการทำงาน เช่น ใช้ AI สร้างฉากหลัง, ปรับแต่งภาพ, หรือสร้างแรงบันดาลใจในการถ่ายภาพใหม่ ๆ การผสมผสานทักษะการถ่ายภาพเข้ากับความสามารถของ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตผลงาน
 
บทสรุป
       การส่งภาพขายผ่าน Shutterstock ยังคงเป็นช่องทางสร้างรายได้ที่ดีอยู่ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนเมื่อก่อน ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และ AI ได้เข้ามาเป็นทั้งคู่แข่งและเครื่องมือสำคัญ AI ไม่ได้เข้ามาแทนที่ช่างภาพทั้งหมด แต่จะเข้ามาแทนที่ผู้ที่ทำงานในระดับพื้นฐานและไม่มีทักษะเฉพาะทาง ช่างภาพที่สามารถปรับตัวและยกระดับคุณภาพของผลงานให้มีเอกลักษณ์มากขึ้น รวมถึงมองเห็นโอกาสในการใช้ AI เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทำงาน จะยังคงสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จในตลาดภาพสต็อกยุคใหม่ได้อย่างแน่นอน